ชีวิตของบุคคลเพศที่สาม กับการทำงานที่หายากและชีวิตที่ค่อนข้างลำบากกว่าเพศอื่น

วันนี้ขอมาแชร์และขอตั้งคำถามสำหรับใครหลายๆคน ทุกเพศทุกวัย

...เนื่องจากตัวดิฉันทุกวันและที่ผ่านมา ค่อนข้างที่จะมีปัญหาเยอะ ไม่ว่าจะครอบครัว,การเรียน,สังคมเพื่อนฝูง,และการงาน แต่ก็ผ่านพ้นมันมาได้ (ถึงจะไม่หมด) ทุกวันนี้ยังมีข้อสงสัยในตัวเองและตั้งคำถามในใจกับตัวเองมาตลอดเวลาว่า การเป็นบุคคลเพศที่สาม มันมีขีดจำกัดความของสังคมในประเทศหรือโลกยังไง แบบไหนหรอ? ถึงปิดกั้นเราขนาดนี้ ...ไม่ได้บอกว่าบุคคลเหล่านี้ไม่มีดีหรือไม่มีศักยภาพต่างๆนานา เพราะหลายคนรวมถึงตัวดิฉันเองก็มีศักยภาพมากพอกับความสามารถของตนเองที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่น แต่ปัญหาก็ยังคงมีมากมายที่ยังแก้ไขไม่ได้สำหรับชาวอย่างเรา หรือตัวดิฉันเอง

มาถึงปัญหาของดิฉัน
-ครอบครัวของดิฉันเคยมีปัญหาแม้กระทั้งตัวดิฉันเองที่คุณพ่อแม่ยอมรับไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ผ่านพ้นมาเพราะกำลังใจจากพ่อแม่
-การเรียนของดิฉันค่อนข้างมีปัญหาเรียนไม่จบ เพราะช่วงเวลาที่ดิฉันเรียนนั้น พ่อกับแม่ต้องแบ่งรายได้ทุกบาทให้พี่สาวต่ออนาคตให้เรียนให้จบ ส่วนดิฉันต้องพักทุกอย่างลงเหตุเพราะไม่มีเงินมากพอจะส่งตัวเองเรียน (ครอบครัวดิฉันแต่ก่อนเป็นหนี้มหาศาลเรียกได้ว่าจนทีเดียว)
-สังคมเพื่อนฝูงดิฉันมีน้อย (เนื่องจากพักการเรียนลง สังคมเลยไม่ได้สนิทกับใครมากเท่ากับการอยู่บ้านไปวันๆ)
-ปัญหาสุดท้ายคือการงาน ดิฉันก็ทำงานบ้างในช่วงที่มีเวลาว่าง แต่กว่าจะได้งานก็ยากเย็นแสนเข็นเหลือเกิน

เอาหละ เข้าเรื่องเลยละกัน
....สิ่งที่ดิฉันสงสัยคือ ทำไมบุคคลเพศที่สามอย่างดิฉันถึงหางานยากลำบากแสนเข็น แถมชีวิตก็ต้องใช้อยู่แบบกังวลต่อปัญหาต่างๆของสังคม ทำไมเปิดใจยอมรับ ทอม เกย์ ผู้ชาย ผู้หญิง แต่กลับเปิดใจกับกะเทยแต่งหญิงอย่างเราๆน้อยมาก (ไม่ได้บอกว่าไม่มีนะ มีแต่น้อยมาก) เท่าที่ไปอ่านหลายๆเว็บบอร์ด หลายคนมักจะพูดว่า กะเทยหางานง่าย จริงๆแล้วไม่ใช่เลย คุณคิดว่าพวกเราจะหางานที่ตัวเองรักหรือถนัดได้ง่ายอย่างพวกคุณจริงหรอ ทำไมกะเทยต้องใช้ชีวิตกับเรื่องสวยๆงามๆอย่างเดียว ทำไมต้องใช้ชีวิตกับการเป็นนางโชว์อย่างเดียว จริงๆแล้วไม่ใช่เลย พวกเราทำได้มากกว่านี้มากกว่านางโชว์ มากกว่า BA MC *แต่สังคมกับไม่ค่อยเปิดใจให้กับเรามากเท่าไหร่เลย* ถ้าเทียบกับชายจริงหญิงแท้หลายคนอะนะ

ไม่ว่าจะไปสมัครงานที่ไหน แค่เห็นคุณสมบัติในการรับสมัคร *เพศ ช/ญ* ก็รู้สึกเศร้าและปิดเพจนั้นทันที นานๆทีจะเห็นคำว่า รับทุกเพศ แต่นั้นก็หนึ่งในร้อยจริงๆ ทุกวันนี้ดิฉันกลัวการสมัครงานคะ ดิฉันว่างงานมาได้ 8 เดือนแล้วคะ หางานแทบทุกวันแต่ก็หาไม่ได้เลย พอหาได้ กลับได้คำตอบที่ไม่หน้าพึงพอใจสักเท่าไหร่เลย บริษัทก็ชื่อดัง ก่อนจะสมัครเราก็บอกเขาว่าเราเป็นสาวสอง แต่พอไปถึงกลับตอบมาว่า ยังไม่พร้อมที่จะรับบุคคลเพศที่สาม แถมยังโดนดูถูกกลับมาอีก ว่าไม่ต้องการกะเทยหรือพวกผิดเพศมาทำงานพวกนี้ เพราะพวกผิดเพศมันอารมณ์แปลปรวน รับมาก็เสียงาน (ก็อย่างว่า กะเทยส่วนใหญ่ก็ทำเสียไว้เยอะ) ไปสมัครอีกบริษัทนึง ทางผู้จัดการเป็นคนสัมภาษณ์เองเลยและเขาเห็นแววเรา เขาชอบทั้งการพูด วาจาและการวางตัว แถมเรายังเก่งในทัศนะคติและการโนมน้าวใจคน ถ่อมตน เขาเองก็ชอบเราอีกตังหากเลยตอบใจรับเราเรียบร้อย พอมาถึงฝ่ายบุคคลกลับได้คำตอบมาว่า ไม่ผ่านไม่รับกะเทยแล้วไล่เรากลับ เป็นแบบนี้มา 6 งาน ที่เหมือนจะรับแต่สุดท้ายก็ไม่รับเพราะเห็นเราเป็นกะเทย บางที่ก็พนักงานเต็มรอตอบกลับ แต่ก็ไม่มีเลย (งานส่วนใหญ่เป็นงานแต่งหน้าเค้าเตอร์แบรนด์ หรือแม้แต่งานขาย) สุดท้ายแล้วมันมีทางเดียวใช่มั้ยที่เราจะทำได้ คือเป็นนางโชว์หรอ เป็น MC  แต่งตัวโป้ๆแค่นั้นหรอถึงจะรับ เราเองไม่ได้อยากทำงานแบบนั้น เราเองอยากมีงานที่ให้อนาคตเราได้ เราก็อายุจะเยอะแล้ว เราไม่มีสามีหรือแต่งงานกับใครให้เค้าเลี้ยงเราได้ เราต้องเลี้ยงตัวเองเพราะเรารู้จุดยืนของตัวเราเองดีว่ามีแค่ไหน ได้แค่ไหนแค่นั้น เราไม่ได้ขี้เหร่ นับได้ว่าถึงขั้นสวยพอเหมือนผู้หญิง แต่ก็ยังหางานยากอีก T^T

เราอยากให้ใครหลายๆคนลองคิดมุมกลับนะ ว่าพวกเราสังคมยอมรับยากกว่าที่ใครหลายๆคนคิดว่ามันจะง่าย พวกคุณอาจจะมองว่าไปที่ไหนก็ยังเห็นกะเทยทำงานบริษัทนั้นๆ คุณลองถามใจเขาแล้วหรือยัง ว่าเขาอยากทำงานนั้นจริงไหม เพราะหลายๆคนแม้กระทั้งตัวดิฉัน หางานทำได้งานทำก็เพื่อเงินที่จะเลี้ยงดูตัวเองและพ่อแม้ในอนาคตข้างหน้า เราไม่ได้ขอหรืออยากได้สิทธิเท่าเทียมกับพวกชายจริงหญิงแท้ แต่เราแค่อยากให้สังคมทุกๆคน เปิดใจยอมรับในสิ่งที่เราเป็น เปิดใจมองในสิ่งที่เราสามารถทำได้ เรามีดีกว่าที่พวกคุณมองว่าเราเป็นพวกผิดเพศ เรามีดีกว่าการทำอาชีพในแบบที่พวกคุณมองว่าเหมาะสำหรับเรา เรามีดีกว่าการที่พวกคุณเห็นเราเป็นตัวตลกเฮฮา

และตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ตอนนี้ก็มีจุดที่ยั้งยืนแล้ว เรียกได้ว่ารวยพอที่จะลงทุนให้เราทำธุรกิจตัวเอง เพราะพวกเขาเข้าใจดีว่าเพศอย่างเราหางานยาก ไปที่ไหนก็น้อยที่จะรับ พ่ออยากให้เราเรียนที่ถนัดๆ แล้วมาเปิดกิจการเป็นของตัวเอง (ดิฉันก็ไม่อยากรบกวนเงินพ่อแม่เท่าไหร่เลย) ดิฉันเองเป็นคนเก่งรอบด้านเลยทีเดียเพราะศึกษาเรียนรู้เอาจากหลายๆด้านในทฤษฎีต่างๆ ไม่ว่าจะแต่งหน้า แฟชั่นดีไซน์เนอร์ งานประดิษฐ์ทุกอย่าง เก่งคอม เก่งการท่องเที่ยว เก่งการพูดเจรจา ตอนนี้อยากเรียนเพิ่มแนวทางแบบปฏิบัติเพื่อให้เก่งขึ้น เพื่อให้ตัวเองมีรายได้จากการทำธุรกิจเป็นของตัวเอง เพื่อนในที่นี้คิดว่า เรียนอะไรที่เป็นครอ์สและจบมาถึงจะคุ้มค่าที่สุดคะ แชร์กันได้นะคะ เพราะตอนนี้กำลังเครียดเรื่องงานเลย ไม่รู้จะทำอะไรดี เรียนอะไรเพิ่มเติมดี ที่เรียนแล้วได้คุณค่าจากมันเยอะๆ

ขอบคุณที่รับอ่านคำระบาย คำแชร์ และคำถามนะคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ที่ทำงานหนูก็มีฝ่ายบุคคลเป็นเพศที่สามค่ะ ทั้งแปลงเพศแล้วและยังไม่ได้แปลง
ล่ามก็เป็นเพศที่สามค่ะ ผมยาว นมบึ้มเลยค่ะ อย่าคิดมากค่ะ
ลองส่ง resume ไปตามบริษัทต่างจังหวัดดูนะคะ รับเยอะแยะนะคะ
พนง.เอกสารที่ออฟฟิศหนูก็เพศที่สามค่ะ ไม่ต้องคิดมากค่ะอยู่ที่ความกล้าและประสบการณ์ค่ะ
(บริษัทที่หนูทำมันเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ จ.ปราจีนนะคะ)
ที่ที่เปิดโอกาศให้เพศที่สามมีเยอะค่ะคุณต้องลองเปิดใจกับงานหลายๆอย่างค่ะ
เรื่องการศึกษาก็เป็นตัวสำคัญกับเพศที่สามเหมือนกันนะหนูว่า ถ้าจบสูงก็ได้ใบเบิกทางดีกว่าที่เค้าจะมองเพศของคุณอ่ะค่ะ
เหมือนคนการศึกษาน้อย3คน การศึกษาเท่ากัน แต่อย่างแรกก็จะเลือกดูจากการสัมภาษณ์และหน้าตาค่ะ
สู้ๆค่ะ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่